เนยมาร์ จูเนียร์, คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ และ ลิโอเนล เมสซี่ ถูกส่งลงตัวจริงพร้อมหน้าตั้งแต่นาทีแรกทว่าช่วงครึ่งชั่วโมงท้ายของเกมมีปัญหาเรื่องช่วยลงมาป้องกัน ส่งผลให้สกอร์นำ 1-0 ครึ่งแรก โดน คาริม เบนเซม่า อาศัยลูกเก๋ากดแฮตทริกพา ‘โลส บลังโกส’ แซงเฮผ่านเข้ารอบต่อไปสำเร็จ

จุดนี้เองที่ เฟอร์ดินานด์ มองว่าไม่ได้อยู่ที่กึ๋นของ โปเช็ตติโน่ เท่านั้น แต่อีโก้ของสามดาวเด่นก็เป็นอุปสรรคยากจะทำให้ความฝันสูงสุดอย่างแชมป์ชปล.สู่ ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ หลุดลอย

“ผมไม่คิดว่าจะมีประวัติศาสตร์แชมป์ชปล.ถูกสร้างขึ้นที่ เปแอสเช” อดีตแชมป์ชปล.2008 กล่าว

“คุณสังเกตดูผจก.ทีมหลายท่านที่ยังอยู่ในวงการเวลานี้อาจเป็นแชมป์ลีกตัวเองมา แต่ล้มเหลวบนเวทีชปล.”

“เราเห็นกันเมื่อคืนว่า เปแอสเช ม้วนเสื่อกลับบ้านอย่างไร แล้วมันไม่ใช่แค่หนึ่งฤดูกาลแต่เกิดขึ้นมาต่อเนื่องทุกๆปีเมื่อคุณลงแข่ง คุณทราบอะไรไหมด้วยศักยภาพขุมกำลังที่พวกเขามีโดยเฉพาะแดนหน้า, ประสบการณ์ที่สั่งสมมา, อุดมไปด้วยนักเตะดีกรีทีมชาติระดับตัวดังๆ มันน่าจะมีลุ้นแชมป์”

“แต่พวกเขาร่วงในรอบก่อนรองฯ, รอบรองฯ, นัดชิงฯ นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น- เห็นได้ว่าทีมดีแต่ขาดความสมบูรณ์ คิดว่าส่วนหนึ่งเพราะวิธีการเล่น”

“จึงมองว่าไม่สามารถชี้นิ้วเป็นความผิด โปเช็ตติโน่ ได้ทั้งหมดเมื่อการตกรอบเกิดขึ้นฤดูกาลแล้วฤดูกาลเล่า”

“การสร้างวัฒนธรรมในองค์กรเป็นสิ่งสำคัญ การจะให้ทั้งสามกองหน้าเล่นร่วมกันอย่างราบรื่นมันเป็นไปไม่ได้ที่จะเล่นในระดับสูง ในลีก เอิง ฝรั่งเศส อาจพอเอาตัวรอดได้ทุกปี”

“แต่ในเกมระดับทวีปเป็นเรื่องยากที่จะรักษาระดับ 3 กองหน้าให้เข้มข้นไปจนสุดทางหากเล่นแบบทัวร์นาเมนต์ที่แชมเปี้ยนส์ ลีก มันยากมากๆ”

กระแสปลด โปเช็ตติโน่ ดังระงมอีกครั้งทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่หมายตาเทรนเนอร์อาร์เจนไตน์ติดตามสถานการณ์เป็นพิเศษ